วัดผลคอนเทนต์เพื่อนำไปพัฒนาต่อ หลังจากเผยแพร่คอนเทนต์ออกไปแล้ว สิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำก็คือการติดตามวัดผลคอนเทนต์ เพื่อที่จะสามารถประเมินได้ว่าคอนเทนต์ที่คุณทำไปนั้นบรรลุ Objective ที่กำหนดไว้หรือไม่? ตัวอย่างการวัดผลคอนเทนต์ เช่น Like, Comment, Share, Website Traffic จากนั้นให้นำผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดผลคอนเทนต์มาวิเคราะห์และพัฒนาการทำคอนเทนต์ต่อไปได้ เช่น หากกลุ่มคนที่มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์คุณเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง และมีฟีดแบคในทางที่ดีก็อาจจะใช้คอนเทนต์ลักษณะนี้เป็นแนวทางต่อไป หรือหากมีฟีดแบคไม่ดีเราก็อาจจะต้องคิดหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ เมื่อเข้าใจการทำ Content Marketing แล้ว ก็ถึงตาคุณแล้วที่ต้องลงมือ… 😀 อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ก่อนใครได้ที่ HeadEight Blog ติดตามเราบนช่องทาง Facebook ได้ที่ HeadEight Digital
หากคุณ Search หาหนังสือที่เกี่ยวกับ UX โดยใส่ Keyword "UX" หรือ "User Experience" คุณจะพบกับ หนังสือที่มีชื่อว่า UX Strategy เขียนโดย Jaime Levy ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ บน Amazon หนังสือเล่มนี้ได้ Rating สูงมาก ถึง 4. 7/5. 0 ดาว จาก 350 กว่า Reviews (คือได้ Rating ดีกว่าหนังสือ Don't Make Me Think หนังสือ UX ในตำนานซะอีก) สำหรับคนชอบอ่านหนังสือ บอกเลยว่า Review บน Amazon นั้นคือเรื่องจริง ไม่เจ๋งจริงไม่ได้ Rating 4.
ออดี้ และผู้รู้มากมายใน "หมู่บ้านนินจา" LINE OpenChat ติดตามอ่านความรู้ด้านกลยุทธ์การตลาดได้ในบทความครั้งต่อไป กับ อ. ออดี้ – กิตติชัย ได้ใน Blog ของ นินจาการตลาด ที่นี่… Sign up for our Newsletter ติดตามบทความด้านการตลาดฟรีๆมากมายเพียงกรอกอีเมล์ด้านบนนี้
Distribution – คุณจะปล่อยคอนเทนต์ในช่องทางไหน? เรื่องช่องทางในการเผยแพร่คอนเทนต์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะถึงแม้คุณจะพยายามสร้างคอนเทนต์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าหากคุณปล่อยคอนเทนต์ในช่องทางที่ลูกค้าเป้าหมายมองไม่เห็นก็เท่ากับว่าคอนเทนต์ไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวมันเองได้แต่อย่างใด คำถามต่อไปคือคุณจะเผยแพร่คอนเทนต์ในช่องทางใด? ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ บล็อก อีเมล หรือ โซเชียลมีเดีย ซึ่งคุณควรที่จะเลือกช่องทางที่ได้ผลที่สุดในการเผยแพร่คอนเทนต์ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการโปรโมทคอนเทนต์ ซึ่งมีทั้งการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ (Organic) คือการซื้อสื่อเพื่อโปรโมท (Paid Promotion) ที่จะช่วยเพิ่มการรับรู้ที่มีต่อคอนเทนต์ของคุณ Stakeholders – ใครที่มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์บ้าง? ไม่ใช่แค่ทีมสร้างคอนเทนต์ที่จะมีส่วนรวมในกระบวนการผลิตคอนเทนต์ แต่รวมไปถึงทุกคนที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นผู้ตัดสินใจ ผู้อนุมัติโครงการ หรือผู้ที่นำคอนเทนต์ไปใช้งาน สิ่งที่คุณควรรู้คือผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้คาดหวังอะไรจากคอนเทนต์ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้น และทำอย่างไรถึงจะตอบสนองต่อความคาดหวังที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด Goals – เป้าหมายที่คุณต้องการจากคอนเทนต์คืออะไร?
ลักษณะของแบรนด์เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีผลต่อการสร้างคอนเทนต์เป็นอย่างมาก เพราะแบรนด์เปรียบเสมือนสิ่งที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายคาดหวังว่าพวกเขาจะได้อะไรจากคอนเทนต์ของคุณ การที่คอนเทนต์ไปคนละทิศละทางกับแบรนด์ของคุณอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้มากกว่าที่คาดคิด ลักษณะของแบรนด์คือขอบเขตที่กำหนดว่าคุณสามารถสร้างคอนเทนต์ได้ในรูปแบบใดบ้าง คอนเทนต์แบบใดที่ไม่สามารถทำได้ และลักษณะของแบรนด์จะเป็นตัวที่กำหนดว่าคอนเทนต์ที่ถูกผลิตออกมาจะมี Mood and Tone หรือลักษณะในการสื่อสารออกมาเป็นอย่างไร Production – คุณจะผลิตคอนเทนต์ได้อย่างไร? คำถามสามข้อก่อนหน้านี้จะทำให้คุณได้ลักษณะของคอนเทนต์ที่จำเป็นต้องสร้างออกมาโดยคร่าวๆ และ เพื่อที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณออกมาเป็นรูปเป็นร่าง ขั้นตอนต่อไปที่คุณจำเป็นต้องทำคือการวางแผนในการทำคอนเทนต์ ขั้นตอนนี้เริ่มต้นจากการถามว่า คนทำคอนเทนต์มีใครบ้าง? และพวกเขาแต่ละคนมีหน้าที่อะไร? เพื่อที่จะจัดสรรความรับผิดชอบไปให้กับทีมงานของคุณ และทำให้ทีมของคุณสามารถเริ่มงานได้ทันที อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือทรัพยากรที่เข้าไปช่วยในการสร้างคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็น Metadata, Style Guide หรือ Publishing Checklist ที่นอกจากจะทำให้ทีมงานของคุณทำงานได้ง่ายขึ้นแล้ว ทรัพยากรเหล่านี้จะช่วยควบคุมในคอนเทนต์ของคุณเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากขั้นตอนการผลิตได้อีกด้วย Formats – คอนเทนต์ของคุณมีลักษณะอย่างใด?
อะไรบ้าง?
Content Marketing คืออะไร?
การวิเคราะห์คอนเทนต์ ศึกษาความสำเร็จเพื่อทำกลยุทธ์ซ้ำ หากพบว่าผู้เข้าชมสนใจคอนเทนต์ที่เป็นวิดีโอ ก็สามารถปรับแผนสำหรับการสร้างเนื้อหา Editorial Calendar เพื่อโฟกัสที่เนื้อหาได้ประเภทคอนเทนต์ที่สอดคล้องกัน นำบทความ SEO Content เก่ามาอัปเดตปรับปรุงเนื้อหาให้มีความทันสมัย และสดใหม่ ข้อมูลจาก: //