กำหนดและตั้งชื่อ Tables และ Columns อย่างสอดคล้องกัน การตั้งชื่อ Tables และ Columns ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำอย่างสอดคล้องกัน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ Data ของคุณดียิ่งขึ้น หนึ่งในแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการตั้งชื่อ Tables และ Columns ก็คือ การตั้งชื่อง่าย ๆ ที่ระบุถึง Data ที่อยู่ในนั้น ตัวอย่างเช่น ตั้งชื่อ Column ที่มีชื่อลูกค้าของคุณ ว่า 'CustomerName' คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่เป็น พหูพจน์ (เช่น CustomerNames), ตัวย่อ (เช่น CN) และคุณไม่ควรเว้นช่องว่างภายในชื่อ (เช่น Customer Name) หากคุณตั้งชื่อสอดคล้องกับกฎเบื้องต้นเหล่านี้ ก็จะทำให้ง่ายต่อ Users ที่จะใช้ Database นั้นในอนาคต 4. Normalization ถือเป็นกุญแจสำคัญ การทำ Normalization ของ Database เป็นกระบวนการจัดระเบียบ Information ทั้งหมดภายใน Database เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่อง Data Replication และ Redundancy หรือกล่าวอย่างง่าย ๆ Normalization หมายถึง การกระจาย Data ไปยัง Table ที่เล็กกว่าหลาย ๆ Table แทนที่จะเก็บ Data ทั้งหมดไว้ใน Table ขนาดใหญ่ การทำ Normalization ก็เพื่อให้ข้อมูลมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม อย่าทำการ Normalize ให้มากเกินไป เพราะจะเป็นการกระจาย Data ของคุณไปยัง Table อื่นในจำนวนที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนได้ 5.
3 แยกตาราง tempoforder เป็นหลายตาราง และทุกตารางมี primary key ที่มีการตรวจสอบการขึ้นตรงอย่างถูกต้อง primay key คือ รหัสใบสั่งซื้อ ตาราง invoid_1 A0001, 24/10/2004, 101, ABC company A0002, 24/10/2004, 102, XYZ company primay key คือ รหัสใบสั่งซื้อ และรหัสสินค้า ตาราง invoid_2 A0001, 201, 50, 3 A0001, 202, 100, 5 A0001, 203, 20, 2 A0002, 201, 100, 3 A0002, 202, 120, 5 A0002, 203, 50, 2 ตาราง product เพราะราคาขึ้นกับรหัสสินค้า primary key คือ รหัสสินค้า ตาราง product 201, Pen, 3 202, Book, 5 203, Ruler, 2 การทำ 3NF ของ ตัวอย่าง 5. 3 ตาราง invoid_1 เพราะชื่อลูกค้าไม่ขึ้นกับรหัสใบสั่งซื้อ จึงต้องแยกไปทำตาราง customer A0001, 24/10/2004, 101 A0002, 24/10/2004, 102 ตาราง customer เพราะชื่อลูกค้าไม่ขึ้นกับ รหัสใบสั่งซื้อ แต่ขึ้นกับรหัสลูกค้า primay key คือ รหัสลูกค้า ตาราง customer 101, ABC company 102, XYZ company primay key คือ รหัสใบสั่งซื้อ และรหัสสินค้า เพราะ ปริมาณ และราคาต้องขึ้นกับ key 2 ตัวนี้ ตารางความสัมพันธ์ (Relational Table) Computer Hardware Information System Management ของ อ.
วิชา Database - Ep1: ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล - อ. เอิญ สุริยะฉาย (KMUTNB) - YouTube
Documentation ของการออกแบบ Database เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อพูดถึง Documentation แล้ว คงจะไม่ใช่สิ่งที่ใคร (หลายคน) ชื่นชอบที่จะทำมันมากนัก แต่อย่าลืมว่า Documentation เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกแบบ Database ที่ดี เพราะมันจะคอยติดตามรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมด การออกแบบ Database ของคุณ ควรมีการจัดทำ Document พร้อม Instructions, ER diagrams, Stored Procedures และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด Documentation ควรจะให้ข้อมูลที่มากเพียงพอแก่ Programmer และ End-Users ซึ่งพวกเขาจะได้เข้าใจวิธีใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 6. Privacy เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หลายครั้งที่ข้อมูลที่เก็บไว้ใน Database เป็นความลับและมีความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยสูงสุดคุณควรเข้ารหัส (Encrypt) Password ของคุณ, จำกัดการเข้าถึง Database ด้วยการใช้ Authentication รวมทั้งใช้ Server ที่แยกออกไปสำหรับ Database เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยยิ่งขึ้นจากการถูกโจมตีและการละเมิดความเป็นส่วนตัว 7. คิดถึงความต้องการในระยะยาวด้วย การออกแบบ Database ที่ดี ควรจะสามารถปรับขนาด (Scalable) ได้ ซึ่งหมายความว่า มันสามารถทนทานต่อ Workload ที่สูงและทำให้ Application ทำงานต่อไปได้แม้ว่าการใช้งานจะเพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของ Workload มาก ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึงสิ่งนี้เมื่อออกแบบ Database อย่างเช่น หาก E-Commerce Website คาดว่า จำนวน Visitors จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในในช่วงเดือนที่มียอดขายสูง ๆ จึงควรคำนึงถึงเรื่องกระบวนการออกแบบ Database เพื่อให้ Database สามารถรองรับ Visitors ที่เพิ่มขึ้นและสามารถรองรับ Workload ที่สูงได้ 8.
Database Design: Introduction to Database Design [1] การออกแบบฐานข้อมูล - YouTube
ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ค่าเรียน ราคา 13, 800 บาท ต่อ ท่าน *** ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ( VAT 7%) วิธีการชำระเงิน ***ผู้เข้าอบรมจะต้องชำระค่าอบรบก่อนวันเริ่มอบรมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ Cancellation กรณีที่ท่านมีเหตุจำเป็นต้องการยกเลิกการสำรองที่นั่ง โปรดแจ้งล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนวันเริ่มอบรมอย่าง น้อย 7 วัน มิฉะนั้นจะไม่คืนค่าอบรม หมายเหตุ รอบเรียน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
2 สร้างความสัมพันธ์(Relation) ระหว่าง entity 3. 3 พิจารณา key ของแต่ละ entity 3. 4 พิจารณาคุณสมบัติของ entity แต่ละตัว 5. ขั้นตอนการ Normalization 5. 1 เปลี่ยนตารางที่ยังไม่เคย Normalization เป็น First Normal Form หรือ 1NF วิธีพิจารณา คือ แยกข้อมูลเป็นระเบียน โดยไม่มีการจัดกลุ่ม ตารางที่ไม่ผ่านการ normalization orderid 305 orderdate 31/01/47 productid 432 455 467 quan 20 2 1 ตารางที่ผ่านการ normalization ในระดับ 1NF orderid orderdate productid quan 305 31/01/47 432 20 455 2 467 1 5. 2 เปลี่ยนจาก 1NF เป็น 2NF(Second Normal Form) คือการเปลี่ยนตารางที่มีปัญหา 4 ประการ วิธีพิจารณาเปลี่ยน 1NF เป็น 2NF คือ ไม่มี non key ตัวใด ไม่สัมพันธ์กับ primary key (ให้พิจารณาเฉพาะ non key และ primary key) สิ่งที่ได้จากตาราง 1 ตาราง จะแตกออกมาเป็นหลายตาราง 5. 2. 1 แก้ไขข้อมูล ต้องแก้หลายระเบียน 5. 2 มีข้อมูลเดียวกันในหลายระเบียน อาจขัดแย้งกันได้ 5. 3 การเพิ่มข้อมูลทำได้ยาก 5. 4 การลบข้อมูลทำได้ยาก ท่านลองพิจารณา Schema ของตารางนี้ว่าจะแยกได้กี่ตาราง จาก orderid, custid, custname, date, proid, proname, price, quantity, categoryid, categoryname เป็น orders (orderid, custid, custname, date, proid, proname, price, quantity) เป็น categories (categoryid, categoryname) เหตุที่แยก categories ออกมา เพราะ categoryid ไม่สัมพันธ์กับ orderid แต่สัมพันธ์กับ proid โดยตรง จึงต้องแยกออกมา 5.