1. คาดหวังให้สูงเข้าไว้และแน่นอนว่าต้องเตรียมใจที่จะพบกับความผิดหวังด้วย 2. ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง 3. ถ้าเชื่อว่าไม่แพ้ เราก็จะไม่แพ้ 4. คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้ 5. อุปสรรคล้วนเป็นยาขม ไม่มีใครอยากลิ้มลอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาขม ส่วนใหญ่มักเป็นยาดีเสมอ 6. ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้ความสุขในคราวต่อมาเป็นความสุขที่แท้จริง 7. เพื่ออะไรกับการรอคอยที่ไม่มีความหมาย 8. ยิ่งบทเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเราผ่านมันไปได้เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น 9. กุหลาบไร้หนามมีเพียงมิตรภาพเท่านั้น 10. อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำ 11. แม้แต่นิ้วของคนเรายังยาวไม่เท่ากัน นับประสาอะไรกับความยั่งยืนของชีวิต 12. โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ 13. ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม 14. ไม่มีใครเข้มแข็งตลอดไปและไม่มีใครอ่อนแอตลอดกาล 15. บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป 16. อย่าเกลียดน้ำตาเพราะมันคือเพื่อนแท้ อย่าเกลียดความอ่อนแอเพียงเพราะมันไม่ใช่ความเข้มแข็ง 17.
โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ 13. ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม 14. ไม่มีใครเข้มแข็งตลอดไปและไม่มีใครอ่อนแอตลอดกาล 15. บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป 16. อย่าเกลียดน้ำตาเพราะมันคือเพื่อนแท้ อย่าเกลียดความอ่อนแอเพียงเพราะมันไม่ใช่ความเข้มแข็ง 17. มีเพียงชีวิตที่ทำเพื่อคนอื่นเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีชีวิต 18. ทุกอย่างมีค่าเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าไม่ควรจะทำมันอีก 19. คนฉลาดย่อมไม่นำแต่ตาม ย่อมไม่พูดแต่ฟัง 20. ทุกคนได้ยินในสิ่งที่คุณพูด แต่เพื่อนที่ดีที่สุดจะได้ยินแม้ในสิ่งที่คุณไม่ได้พูด 21. อวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด 22. คนที่ว่าคนอื่นโง่ บุคคลนั้นโง่ยิ่งกว่า คนที่ว่าคนอื่นฉลาด บุคคลนั้นคือผู้ฉลาดอย่างแท้จริง 23. ฝันได้แต่อย่าหวัง 24. เรียนรู้ที่จะแพ้อย่างผู้ชนะ แล้วจะรู้จักกับคำว่าชัยชนะที่แท้จริง 25. นักปราชญ์ ควรรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด 26. ความยึดถือ คือความเจ็บปวด 27. พระเจ้าไม่ได้รักเรามากกว่าคนอื่น และไม่ได้รักคนอื่นมากกว่าเรา 28. อุปสรรคคือแบบทดสอบของชีวิต 29. ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต 30.
บ้านธัมมะ กระดานสนทนา พระสูตร ๒. สุชาตชาดก ว่าด้วยคําคมของคนฉลาด บ้านธัมมะ วันที่ 24 ส. ค. 2564 หมายเลข 35808 อ่าน 116 ข้อความที่ 1 วันที่ 26 ธ. 2564 ข้อความที่ 2 ข้อความที่ 3 ข้อความที่ 4 ข้อความที่ 5 ข้อความที่ 6 ข้อความที่ 7 หัวข้อแนะนำ
โอกาส " กับคนที่เห็นคุณเป็นแค่ " อากาศ " เราเป็นคนภูมิคุ้มกันดียังไม่เคยแพ้ฝุ่น แต่เอ๊ะทำไมกับคุณเราแพ้แล้ว ซอยบ้านพี่น้ำท่วม พี่ขออ้อมไปซอยน้องจะได้ไหมครับ 🤪🤪🤪 เคาท์ดาวน์ไม่หนาวแล้ว แต่เขาหมดรักแล้วแมร่งโคตรหนาว. ตอนนี้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะเฟี้ยงโต๊ะฟาดหน้าใครก็ได้ 😤 ทุกครั้งที่ฉันเงียบ คือทุกครั้งที่ฉันเสียใจ.. 😞🖤 คบกับเราไม่มีซ้ำซ้อน ง่วงก็นอน งอลก็เอา😜😜 วันนี้ที่ไหนเด็ด เดี่ยวจะไปเสร็จที่นั่น 🙊🙊 🌟 แคปชั่นอ่อย แคปชั่นอ่อย เมื่อก่อนอะเลว ยอมรับ เดี๋ยวนี้ดีขึ้นครับ เลวกว่าเดิม😋😎 สุดท้ายเราก็แค่แยกย้ายกลับไปอยู่ในโลกของตัวเอง โลกที่ไม่เคยมีกันและกันมาก่อน.
ปักพินในบอร์ด คำคมดีๆ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๔ - หน้าที่ 713 สุชาตชาดก ว่าด้วยคำคมของคนฉลาด [๗๐๗] (บิดา) เหตุไรหนอ เจ้าจึงเป็นเหมือนรีบด่วน เกี่ยวเอาหญ้าอันเขียวสดมาแล้ว บ่นเพ้อถึง วัวแก่ผู้ปราศจากชีวิตแล้วว่า จงเคี้ยวกินเสีย วัวที่ตายแล้วจะพึงลุกขึ้นได้เพราะหญ้าและ น้ำเป็นไม่มีแน่ เจ้าบ่นเพ้อไปเปล่าๆ เหมือน คนผู้ไร้ความคิด ฉะนั้น. [๗๐๘] (บุตร) ศีรษะ เท้าหน้า เท้าหลัง หางและหู ของวัว ก็ตั้งอยู่ตามที่อย่างนั้น ผมเข้าใจว่า วัวตัวนี้จะพึงลุกขึ้นได้ ศีรษะหรือมือเท้าของ คุณปู่มิได้ปรากฏเลย คุณพ่อนั่นเองมาร้อง- ไห้อยู่ที่สถูปดิน เป็นคนไร้ความคิดมิใช่หรือ. [๗๐๙] (บิดา) เจ้ารดพ่อผู้เดือดร้อนยิ่งนักให้หายร้อน ยังความกระวนกระวายของพ่อให้ดับได้สิ้น เหมือนบุคคลเอาน้ำรดไฟติดเปรียงให้ดับไป ฉะนั้น เจ้ามาถอนลูกศรคือความโศกที่เสียบ แน่นอยู่ในหทัยของพ่อออกได้แล้วหนอ เมื่อพ่อถูกความโศกครอบงำ เจ้าได้บรรเทาความ โศกถึงบิดาเสียได้. [๗๑๐] พ่อเป็นผู้ถอนลูกศรคือความโศกออก ได้แล้ว ปราศจากความเศร้าโศก หมดความ มัวหมอง ลูกรัก พ่อจะไม่เศร้าโศก จะไม่ ร้องไห้ เพราะได้ฟังถ้อยคำของเจ้า. [๗๑๑] คนผู้มีปัญญา มีใจอนุเคราะห์ ย่อม ทำบุคคลให้หลุดพ้นจากความเศร้าโศกได้ เหมือนกับพ่อสุชาตบุตรของเรา ทำเราผู้บิดา ให้ล่วงพ้นจากความเศร้าโศก ฉะนั้น.