Present Con. (Passive): is/am/are + being +V. 3 ในนั้นส่วน Con. ต้องมี เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย เพื่อให้โครงสร้าง Present Con. ยังเหมือนเดิมคือ V. to be + 3. Present Perfect (Passive): has/have been + V. 3 ในนั้นส่วน ของเดิม has/have + V. 3 เลย เพราะงั้นต้องผัน V. to be ให้เป็น V. 3 แทนก็คือ been เพื่อให้โครงสร้างหลักยังเป็น has/have + V. 3 เหมือนเดิม แล้วค่อยตามด้วย V. 3 ของ Passive 4. Past Simple (Passive): was/were + V. 3 ในนั้นส่วน was/were คือหน้าตาของ V. to be ใน Past Simple (คือผัน V. to be ให้เป็นช่อง 2 ตามโครงสร้าง Past Simple ที่เป็น V. 2) 5. Past Con. (Passive): was/were + being + V. ต้องมี เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย และไม่ต้องผันเป็นอดีต เพราะข้างหน้า (was/were) ผันไปแล้ว 6. Past Perfect (Passive): had been + V. 3 ในนั้นส่วน ผัน V. 3 คือ been แล้วค่อยตามด้วย V. 3 ของ Passive 7. Future Simple (Passive): will be + V. 3 ในนั้นส่วน แค่เพิ่ม be + V. 3 ไปตามหลัง will ที่ใช้ be เพราะตามหลัง will ต้องใช้ V. ไม่ผัน (ของ V. to be ก็คือ be) 8. Future Con. (Passive): will be + being + V. ต้องมี เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย 9.
แปลว่า จอห์นจะเขียนหนังสือในปีหน้า Passive: That book will be written by John next year. แปลว่า หนังสือเล่มนั้นจะเขียนโดยจอห์นในปีหน้า Present Continuous Tense Active: John is writing a book. แปลว่า John กำลังเขียนหนังสือ Passive: A book was being written by John. แปลว่า หนังสือเล่มหนึ่งกำลังเขียนโดย John หลักการใช้ passive voice passive voice ก็คือ การนำกรรมของประโยค active voice มาเป็นประธานของประโยคนั่นเอง หรือเข้าใจได้ง่ายๆ คือ หลักการใช้ Passive Voice คือ ใช้เน้นผู้ถูกกระทำ ไม่เน้นผู้กระทำนั่นเอง บางที่ Passive voice อาจอยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ เช่น This coffee isn't made by Bob. แปลว่า กาแฟแก้วนี้ไม่ได้ถูกชงโดยบ๊อบ หรือคำถามก็ได้ เช่น Is this coffee made by Tom? แปลว่า กาแฟแก้วนี้ถูกชงโดยทอมรึเปล่า? นอกจากนั้นแล้ว เราก็สามารถใช้ passive voice ในรูปของ tense อะไรก็ได้ ตามสถานการณ์การใช้ของเรา โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้ นอนดึกส่งผลเสียอย่างไร!?