ศ. 2476 นายซ่งฮง แซ่เตียและนายจือเหม็ง แซ่อึ้ง สองสหายที่เคยทาเครื่องปั้นดินเผาที่เมืองป้งโคย ประเทศจีน อพยพมาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย ได้มาพบแหล่งดิน ที่ จ.
ซอสามสาย ชื่อรายการ ซอสามสาย ปีที่ขึ้นทะเบียน พ. ศ. ๒๕๕๕ ภูมิภาค ภาคกลาง สาระสำคัญโดยรวม ซอสามสาย หมายถึง เครื่องดนตรีประเภทสีมีสามสายของไทย ทำให้เกิดเสียงโดยการอาศัยคันชักสีลากไปมาบนสายซอ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่ามีมาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และนิยมบรรเลงมาจนสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี จวบจนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การประดิษฐ์เครื่องดนตรีชนิดนี้ทำอย่างวิจิตรบรรจงเพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรเลงและเพื่อความงดงาม ดังนี้ ๑. เทริด เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนสุดเหนือทวนบน ๒. ทวนบนเป็นส่วนของคันซอ ทำด้วยไม้แก่นเช่น ไม้พยุง ไม้ชิงชัน ไม้มะเกลือ ๓. ลูกบิดมี ๓ อัน๔. ทวนล่างนิยมทำด้วย ถมเงิน ถมทอง มุก ๕. พรมบนเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างทวนล่างกับกระโหลก ๖. กะโหลกทำด้วยกะลามะพร้าวพันธุ์ซอที่มีกะลานูนออกมา 3 ปุ่มเรียกว่า "ปุ่มสามเส้า" ๗. หนังหน้าซอนิยมใช้หนังลูกวัว หนังแพะ หนังแกะ ๘. สายใช้ไหมมาควั่นเกลียว ๙. หย่องรองรับสายทั้งสามที่พาดผ่านหน้าซอ ๑๐. ถ่วงหน้าเป็นโลหะประดับด้วยพลอยติดไว้ที่หน้าซอเพื่อความสวยงามและให้เสียงซอดังกังวาน ๑๑. หนวดพราหมณ์เป็นการร้อยสายไหมถักเป็นเกลียวยึดกับพรมล่างใช้ผูกสายซอ ๑๒.
ด้านหน้ายาวประมาณ ๔๔ ซม. กว้างประมาณ ๔๐ ซม. ทาคันทวนเรียวยาวประมาณ ๑๓๘ ซม.
วงมโหรีวงเล็ก ประกอบด้วย ระนาดเอกมโหรี ฆ้องวงใหญ่มโหรี จะเข้ ซอสามสาย ซออู้ ซอด้วง ขลุ่ยเพียงออ โทน รำมะนา ฉิ่ง ที่มา: วงมโหรี 2. วงมโหรีเครื่องคู่ ประกอบด้วย จะเข้ 2 ตัว ซอสามสาย ซอสามสายหลีบ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ฆ้องวงเล็ก ซออู้ 2 คัน ซอด้วง 2 คัน ขลุ่ยหลีบ ขลุ่ยเพียงออ โทน รำมะนา ฉิ่ง ฉาบเล็ก กรับ โหม ่ง 3. วงมโหรีเครื่องใหญ่ ประกอบด้วย จะเข้ 2 ตัว ขลุ่ยหลีบ ขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยอู้ ซออู้ 2 คัน ซอด้วง 2คันซอสามสาย 2 คัน ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอกเหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก โทน รำมะนา ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหม่ง น้ํา ตาล ทราย คารา เมล
ศ.
เดี่ยวซอสามสาย พญาโศก ๓ ชั้น - YouTube