ถือเนื้อหมูไว้บนปากถุงหรืออ่างล้างจานเพื่อให้น้ำหมักที่มากเกินไหลออกไป อย่าปัดสมุนไพรหรือน้ำหมักที่เคลือบอยู่ที่ผิวออก โฆษณา อุ่นเตาอบและอุ่นกระทะไว้. ตั้งเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาห์เรนไฮต์ (218 องศาเซลเซียส) และตั้งน้ำมันหรือเนย 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร) ให้ร้อนระดับปานกลางในกระทะสำหรับเข้าเตาอบ ถ้าคุณไม่มีกระทะสำหรับเข้าเตาอบ คุณสามารถใช้กระทะอื่นเพื่อย่างเนื้อแทนก็ได้ แต่คุณก็จะต้องเตรียมทั้งกระทะสำหรับปิ้งและกระทะสำหรับย่างโดยการพ่นสเปรย์กันเนื้อติดกระทะ ย้ายเนื้อที่ย่างในกระทะเสร็จแล้วเข้าไปอบในเตา 2 ย่างเนื้อสันใน. นำเนื้อสันในลงไปย่างในกระทะที่ร้อนและย่างจนทุกด้านเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล 3 อบเนื้อสันใน 15-20 นาที. นำกระทะลงจากเตาแล้วใส่เข้าเตาอบทั้งกระทะ อบจนมีน้ำฉ่ำๆ และเนื้อหายเป็นสีชมพู ใช้เวลาประมาณ 20 นาที 4 พักไว้ 5-10 นาที. เนื้อสันในจะเย็นลงนิดหน่อยแต่ยังคงอุ่นอยู่ หั่นสันในหมูที่ได้เป็นแผ่นๆ หนาครึ่งนิ้ว (1. 25 เซนติเมตร) ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามต้องการ นำน้ำที่เหลือในกระทะมาพรมบนชิ้นเนื้อได้เพื่อเพิ่มรสชาติ อุ่นเตาย่างไว้สัก 10 นาที. แนะนำให้ซื้อกระทะย่างแบบมีตะแกรง ปัจจุบันเตาย่างส่วนใหญ่จะมีที่ตั้งค่าความร้อนสูงและต่ำ ถ้าเตาย่างของคุณมีทั้งสองอย่างให้ตั้งค่าความร้อนสูง แต่ถ้าไม่มีการตั้งค่าทั้งสองแบบ เพียงหมุนเปิดธรรมดาก็พอ แน่ใจว่าใช้กระทะย่างแบบมีตะแกรง เพราะมันดีกว่ากระทะที่ใช้ปิ้งหรืออบโดยทั่วไป ตะแกรงจะช่วยแยกน้ำมันที่ไหลออกมาจากชิ้นเนื้อเวลาที่มันละลายออกมา และป้องกันไม่ให้ชิ้นเนื้อร้อนเกินไป อย่าทาน้ำมันที่กระทะ หรือห่อมันด้วยกระดาษฟอยล์ ย้ายชิ้นเนื้อไปใส่ในกระทะย่าง.
นำน้ำมะนาว น้ำมันมะกอก กระเทียม ใบโรสแมรี่ ใบไทม์ และเกลือใส่ในชามเล็กแล้วตีให้เข้ากัน นำน้ำหมักที่ได้ใส่ไปในถุงพลาสติกที่มีความจุ 1 แกลลอน (4 ลิตร) และสามารถปิดปากถุงได้ [1] คุณสามารถปรับเปลี่ยนน้ำหมักได้ตามต้องการ โดยการเพิ่มเครื่องปรุงลงไปตามรสชาติที่คุณชอบ คุณสามารถเปลี่ยนน้ำหมักที่เราแนะนำได้โดยใช้น้ำหมักอย่างอื่น แต่จำไว้ว่าในน้ำหมักควรจะต้องมีกรด น้ำมัน และเครื่องปรุงรสอยู่ด้วย 2 เคลือบเนื้อสันในหมู. ใส่สันในหมูลงไปในถุงน้ำหมัก ปิดปากถุง และพลิกไปมาหลายๆ รอบเพื่อให้น้ำหมักเคลือบโดนทุกส่วนของเนื้อหมู บีบไล่อากาศที่อยู่ในถุงมากเกินโดยเปิดปากถุงเล็กน้อยแล้วใช้มือบีบถุงให้ดันอากาศออกมา แล้วปิดปากถุงทันที 3 หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง. นำถุงไปแช่ในตู้เย็น ทิ้งไว้ 3 ชั่วโมงหรือข้ามคืน พลิกถุงกลับไปกลับมาหลายๆ ครั้งระหว่างกระบวนการหมักเพื่อให้ส่วนผสมมันเข้ากันและเคลือบผิวเนื้อสันในอีกครั้ง ยิ่งคุณหมักสันในหมูไว้นานแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้เนื้อมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำและรสชาติดีมากขึ้นเท่านั้นหลังทำเสร็จ อย่างไรก็ตาม อย่าหมักนานเกิน 12 ชั่วโมง เพราะจะทำให้เนื้อเหนียวได้ 4 นำสันในหมูออกมาจากถุงทันทีก่อนปรุง.
ส่วนต่างๆ ของหมู เอาไปทำอะไรอร่อยที่สุด เนื้อหมูจัดว่าเป็นอาหารหลักของเรามาช้านานแล้ว และหนึ่งในนั้นที่กำลังเป็นที่นิยมคือการนำมาทำชาบูทานนี้เอง อย่างร้านของเราก็มีหมูคุณภาพดี สด และสะอาดไว้ให้ทุกท่านได้ท่านเนื้อหมูหลากหลายชนิดกันแบบไม่อั้นเลย และเพื่อนๆ ทราบกันหรือไม่ว่าในตัวหมูนั้นแทบจะนำไปทำอาหารได้เกือบทุกชิ้นส่วนเลย แต่ว่าในแต่ละส่วนนั้นก็จะมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่ต่างกันด้วย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับชิ้นส่วนต่างๆ ของหมูกัน ว่าแต่ละส่วนนั้นเรียกว่าอะไร และเอาไปทำอะไรทานจะอร่อยที่สุด ไปชมกันเลย!
1. สั่งซื้อทางไลน์ LINE ID: @vcmeatbangkok (มี @ ข้างหน้า) 2. สั่งซื้อทาง Inbox Facebook: vcmeatbangkok 3. สั่งซื้อโทรศัพท์ เบอร์ Hotline 098-531-7246 4. สั่งซื้อหน้าร้านได้ที่ ร้านขายส่งเนื้อหมู ชื่อ วีซีมีท ช็อป มี 5 สาขา ได้แก่ สาขาท่าน้ำนนท์, สาขาโพธิ์แก้ว, สาขาร่มเกล้า, สาขาห้วยขวาง, สาขาสายไหม (สายไหม) VC Meat Bangkok มีบริการส่งฟรีถึงที่ ทั่วเขตกรุงเทพ เมื่อยอดสั่งซื้อตั้งแต่ 3, 000 บาท เป็นต้นไป โดยรถควบคุมอุณหภูมิ
ในตู้เย็น 3 จากนั้นเอามา อบในหม้อทอด Philips Airfryer (HD9270) รอบที่1 180/15นาที รอบที่2 200/5นาที (พลิกกลับด้าน) 4 เสร็จเรียบร้อยค่ะ เตรียมเสริฟกับน้ำจิ้มแจ่วได้เลยค่ะ^^ อร่อยมากๆค่า เผยแพร่: 8/19/2021 ลองทำเมนูนี้สิ! เป็นคนแรกที่ได้ลองทำสูตรนี้ 0 ความคิดเห็น
สันใน ( Tenderloin) เป็นส่วนที่ดีและมีราคาสูง เป็นส่วนเนื้อแดง มีลักษณะเป็นเส้น สีชมพูอ่อน เป็นส่วนที่นิ่มที่สุดของตัวหมู หมู 1 ตัว มีสันใน 2 เส้น น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 4-8 ขีดต่อเส้น เป็นเนื้อที่มีไขมันต่ำที่สุดแต่ยังคงความนุ่มเอาไว้ จึงสามารถนำไปทำอาหารได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาหารประเภทผัด ย่าง และนำไปใช้ในการทำหมูแดง ทำสเต็กเป็นพอร์คชอปสันในได้ หรืออาหารที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ยิ่งหมักทิ้งไว้ก็จะยิ่งนุ่ม สำหรับคนที่ต้องการคุมอาหารและอยากได้ทางเลือกนอกเหนือจากการกินอกไก่ สันในหมูก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมีปริมาณโปรตีนถึง 26 กรัม แต่มีไขมันเพียง 3. 5 กรัมต่อปริมาณเนื้อสันในหมู 100 กรัม 2. สันนอก ( Loin) เนื้อแดงส่วนสันหลังของหมู เนื้อเป็นสีชมพู หมู 1 ตัว มีสันนอก 2 เส้น น้ำหนักต่อเส้นอยู่ที่ประมาณ 2. 5-4. 5 กก. เป็นเนื้อหมูบริเวณกลางลำตัวที่สามารถแล่ออกมาเป็นชิ้นขนาดใหญ่ และมีไขมันติดอยู่ในบริเวณริมนอก ส่วนของสันนอกนี้ติดมันน้อยมาก เนื้อจะนุ่มกว่าเนื้อสะโพก หมูสันนอกเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้บริโภค เพราะตัวเนื้อที่นุ่มฉ่ำกำลังดี เนื้อหมูสันนอกนิยมนำมาใช้สำหรับจานอาหารที่ต้องการหมูเป็นชิ้นใหญ่ สามารถนำไปทำสเต็กหมู หมูทอด หมูสะเต็ะ ทงคัตสึ ไม่ค่อยเหมาะกับการนำมาผัดกับผัก เพราะเมื่อสุกแล้วเนื้อจะแข็งกระด้าง 3.